บาเยิร์น มิวนิค ขยับหนีคู่แข่งเป็น 4 คะแนนชั่วคราว หลังเปิดรังกระหน่ำ แวร์เดอร์ เบรเมน 6-1 ในเกมที่ แซร์ช นาบรี้ ทำแฮตทริก
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม และผลงาน 5 นัดหลังสุด
25/04/19 แวร์เดอร์ เบรเมน 2-3 บาเยิร์น มิวนิค (เดเอฟเบ โพคาล)
14/12/19 บาเยิร์น มิวนิค 6-1 แวร์เดอร์ เบรเมน (บุนเดสลีกา)
17/06/20 แวร์เดอร์ เบรเมน 0-1 บาเยิร์น มิวนิค (บุนเดสลีกา)
21/11/20 บาเยิร์น มิวนิค 1-1 แวร์เดอร์ เบรเมน (บุนเดสลีกา)
13/03/21 แวร์เดอร์ เบรเมน 1-3 บาเยิร์น มิวนิค (บุนเดสลีกา)
บาเยิร์น มิวนิค
22/10/22 ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-0 (เยือน, บุนเดสลีกา)
26/10/22 ชนะ บาร์เซโลน่า 3-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
29/10/22 ชนะ ไมนซ์ 6-2 (เหย้า, บุนเดสลีกา)
01/11/22 ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
05/11/22 ชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-2 (เยือน, บุนเดสลีกา)
แวร์เดอร์ เบรเมน
15/10/22 แพ้ ไมนซ์ 0-2 (เหย้า, บุนเดสลีกา)
19/10/22 แพ้ พาเดอร์บอร์น 2-2 (P) (เยือน, เดเอฟเบ โพคาล)
22/10/22 แพ้ ไฟร์บวร์ก 0-2 (เยือน, บุนเดสลีกา)
28/10/22 ชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 1-0 (เหย้า, บุนเดสลีกา)
05/11/22 ชนะ ชาลเก้ 2-1 (เหย้า, บุนเดสลีกา)
สภาพทีมโดยทั่วไป
บาเยิร์น มิวนิค
เจ้าบ้านบาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงบุนเดสลีกา เยอรมนี แล้ว แมตช์นี้โค้ชชาวเยอรมัน ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เพิ่งเสีย อัลฟอนโซ่ เดวีส ไปจากอาการบาดเจ็บสมทบ โธมัส มุลเลอร์ กับ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ สวนทาง ลีรอย ซาเน่ กับ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ หายเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์
การจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 เตรียมส่ง ลีรอย ซาเน่ กับ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ กลับมาออกสตาร์ทร่วมกับ โยชัว คิมมิช, ลีรอย ซาเน่, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, จามาล มูเซียล่า และ เอริก มักซีม ชูโป-โมติง โดยมี แซร์จ นาบรี้, เลออน โกเร็ทซ์ก้า, ซาดิโอ มาเน่, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, โยซิป สตานิซิช และ มาติส แตล เป็นตัวสอดแทรก
แวร์เดอร์ เบรเมน
ด้านทีมเยือนแวร์เดอร์ เบรเมน ของเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน โอเล่ แวร์เนอร์ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเป็น นิคลาส ฟีลครุก, ฮวน-มานูเอล เอ็มบอม, เฟลิกซ์ อากู และ เอดูอาร์โด้ ซานโตส ด้าน ลี บูคานัน ต้องทดสอบความฟิต
การจัดทัพเตรียมเปลี่ยนแผนจาก 3-5-2 มาเล่น 5-4-1 แต่ยังนำทีมมาโดย มาร์วิน ดุ๊คช์, เลโอนาร์โด้ บิทเทนคอร์ท, นิคลาส สตาร์ค, มาร์โก ฟรีเดิล, มิทเชลล์ ไวเซอร์ และ โรมาโน่ ชมิด พร้อมมี คริสเตียน กรอสส์, นิคลาส ชมิดท์, เยนส์ สเตจ, ดิเคนี่-ราฟิด ซาลิฟู และ โอลิเวอร์ เบิร์ค เป็นตัวสนับสนุน
บาเยิร์น ออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 6
ซาดิโอ มาเน่ ยิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลเด้งเข้าทาง จามาล มูเซียล่า โยกจากขวาเข้าซ้ายก่อนปั่นเสียบเสาอย่างสุดยอด เสือใต้ นำ 1-0
แต่ว่า เบรเมน ก็ตามตีเสมอ 1-1 ในอีก 4 นาทีถัดมาจากการต่อบอลกันสวยทางฝั่งขวาก่อนเป็น มิทเชลล์ ไวเซอร์ ไหลบอลไปจุดโทษฝั่งซ้ายให้ อันโธนี่ ยุง แปเน้นเข้าเสาไกล
บาเยิร์น ได้จุดลูกโทษในนาที 14 หลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ชี้ขาดว่า อามอส พีเพอร์ ไปทำฟาวล์ แซร์ช นาบรี้ ก่อนเป็น เอริค มักซิม ชูโป-โมติง สู้หน้ายิง แต่ว่าติดเซฟของ ยิรี่ พาฟเลนก้า
บาเยิร์น จะต้องสลับตัวคนแรกในนาที 20 เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ เจ็บเล่นต่อไม่ไหว จะต้องส่ง ลีรอย ซาเน่ ลงสนามแทน
แต่ว่าอีก 2 นาทีถัดมา บาเยิร์น นำอีกรอบเป็น 2-1 เลออน โกเร็ตซ์ก้า ยิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลเด้งเข้าทาง แซร์ช นาบรี้ ได้ปั่นจากในจุดโทษฝั่งซ้ายจ่ายบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป
เสือใต้ หนีเป็น 3-1 ในนาที 26 โยชัว คิมมิช ทิ่มแทงบอลให้ เลออน โกเร็ตซ์ก้า ปราดเข้าจุดโทษก่อนสัมผัสบอลได้ก่อน ยิรี่ พาฟเลนก้า แล้วยิงด้วยขวามุมแคบเข้าไป
บาเยิร์น นำเพิ่มเป็น 4-1 ในอีก 2 นาทีถัดมา ชูโป-โมติง แทงบอลจากกลางสนามให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดกระทั่งเข้าจุดโทษก่อนใจกว้างจ่ายให้ นาบรี้ แปง่ายๆเข้าไป แล้วจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 54 เสือใต้เกือบจะได้อีก
ชูโป-โมติง ไหลบอลให้ ซาเน่ ยิงด้วยซ้ายในจุดโทษ แต่ว่าบอลไปชนเสาอย่างจัง อีก 3 นาทีถัดมา บาเยิร์น ปรับเกมรุกส่ง คิงส์เลย์ โกมัน และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ลงแทน ชูโป-โมติง และ ลูกัส แอร์น็องเดซ ท้ายเกมนาที 82 เสือใต้ นำขาดเป็น 5-1 จนได้เมื่อ นุสแซร์ มาซราอุย ส่งบอลให้ แซร์ช นาบรี้ ล็อกหนีแนวรับทีมเยือนก่อนจิ้มบอลเข้าเสาแรก กลายเป็นแฮตทริกของ นาบรี้ ในนัดนี้ด้วย
สกอร์ไหลเป็น 6-1 ในนาที 84
จากจังหวะโต้กลับ มาซราอุย จ่ายให้ มาตีส เตล ซัดด้วยซ้ายจากหน้าจุดโทษเข้าไป แล้วจบเกม บาเยิร์น เปิดรังชนะ เบรเมน 6-1 ทิ้งห่างคู่แข่งเป็น 4 คะแนนชั่วคราว